วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สอบ Modal verb&Question tag

เขียนโดย -Heart- ที่ 07:57

Grammar Reference

Present/Past participles

เราใช้ present participles เพื่อบรรยายบางสิ่งบางอย่าง
ตัวอย่างเช่น It was boring lecture.  (How was the lecture? Boring.)
เราใช้ past participles เพื่อกล่าวว่าบางคนรู้สึกเช่นไร
ตัวอย่างเช่น We were bored. (How did we feel? Bored.)

Logical assumptions/Deductions


Must   ใช้เมื่อแน่ใจหรือมั่นใจว่าบางสิ่งนั้นถูกต้อง
Must     จะใช้ในประโยคบอกเล่าและแสดงความเชื่อที่มีเหตุผลในเชิงบวก
ตัวอย่างเช่น You’ve been travelling all day, you must be exhausted!

Can’t/couldn’t: ใช้เมื่อแน่ใจว่าบางสิ่งนั้นไม่ถูกต้องหรือไม่จริง
Can’t และ couldn’t  จะใช้ในประโยคปฏิเสธ และแสดงสมมติฐานตามหลักเหตุผลในแง่ลบ
ตัวอย่างเช่น That can’t be Jason, he’s on holiday in Spain at the moment.



Possibility




Can + กริยาช่องที่ 1: ความเป็นไปได้ทั่วๆ ไป
 บางสิ่งนั้นเป็นไปได้ในทางทฤษฎี จะไม่ใช้ในสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง
ตัวอย่างเช่น       You can choose anything you like from the buffet.
For the main course you can have pasta or pizza.
Could/May/Might +กริยาช่องที่ 1: เป็นไปได้ บางที
ใช้เพื่อแสดงว่าบางสิ่งนั้นเป็นไปได้ในสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง
ตัวอย่างเช่น       You may find what you want at the supermarket.
You should keep that picture, it may be valuable one day.
หมายเหตุ:  เราสามารถใช้ can/could/might ในประโยคคำถาม แต่ห้ามใช้ may
ตัวอย่างเช่น       Do you think that you can/could/might fix it?
Could/Might/Would + have + กริยาช่องที่ 3: ใช้กล่าวอ้างถึงอดีต บางสิ่งซึ่งเป็นไปได้แต่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ
ตัวอย่างเช่น       She might have passed the exam if she had studied harder.


Obligation/Duty/Necessity


must ใช้เพื่อแสดงหน้าที่  การบังคับให้ทำบางสิ่ง หรือว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยปกติแล้วเราจะใช้ must เมื่อผู้พูดเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น
            ตัวอย่างเช่น        I must pay the electricity bill today.
have to ใช้เพื่อแสดงความจำเป็นหรือการบังคับ โดยปกติแล้วเราจะใช้
have to เมื่อผู้พูดไม่ได้เป็นผู้ตัดสินใจเองว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น
              ตัวอย่างเช่น      The teacher said we have to hand our
                                      homework in tomorrow.
หมายเหตุ:  must และ have to มีความหมายแตกต่างกัน ในประโยคคำถาม
ตัวอย่างเช่น  Do I have to wash the car now? (Is it necessary for me ...?)
                    Must I wash the car now?          (Do you insist that I ... ?)

Should/Ought to ใช้แสดงหน้าที่ เสนอแนะ แสดงถึงการบังคับ/หน้าที่ที่ไม่จริงจังเท่ากับ must/have to
ตัวอย่างเช่น We should redecorate the living room soon.


Need  ใช้แสดงความจำเป็น
ตัวอย่างเช่น Need I apply for the job in writing?
หมายเหตุ:  Need สามารถใช้เป็นกริยาช่วย หรือกริยาแท้ก็ได้ โดยที่ความหมาย
ไม่เปลี่ยนแปลง
ตัวอย่างเช่น       Need I finish the report today?             (กริยาช่วย)
                         Do I need to finish the report today?    (กริยาแท้)


Absence of necessity


Needn’t/Don’t have to/Don’t need to + กริยาช่องที่ 1 ใช้เพื่อแสดงว่าไม่มีความจำเป็นต้องทำบางสิ่ง (ในปัจจุบันหรืออนาคต)
ตัวอย่างเช่น       You don’t need to take the dog for a walk, I will do it.
Didn’t need to/Didn’t have to:  ไม่จำเป็นที่ต้องทำบางสิ่ง เราไม่รู้ว่าการกระทำนั้นได้ถูกกระทำไปแล้วหรือไม่
ตัวอย่างเช่น       She didn’t need to/have to pay the whole amount today. (We don’t know if she paid it or not.)
Needn’t/Don’t have to/Don’t need to + กริยาช่องที่ 1:  ไม่จำเป็นต้องทำบางสิ่ง (ในปัจจุบัน/อนาคต)
ตัวอย่างเช่น       You needn’t have typed the whole thing again – it was saved on the computer. (You did type it all.)




Prohibition


Mustn’t/Can’t ใช้ในการห้ามทำบางสิ่ง ห้ามทำเพราะผิดกฎหมาย ผิดกฎ คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทำบางสิ่ง
            ตัวอย่างเช่น       You mustn’t/can’t touch anything in the museum.
                                    You mustn’t/can’t drive if you haven’t got a licence.
Criticism
Could/Should/Might/Ought to/ + have + กริยาช่องที่ 3: ใช้วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของ        คนบางคนหรือการขาดการกระทำ (ในอดีต)  
ตัวอย่างเช่น       They could have thanked me for everything I’ve done for them.
 

Question tags


Question tags มีโครงสร้าง ดังนี้  กริยาช่วย + คำสรรพนาม  โดยกริยาช่วยใน tags จะเป็นตัวเดียวกันกับประโยคส่วนหน้า หรือถ้าไม่มีกริยาช่วยในประโยคส่วนหน้า จะใช้ do/does  (present simple) หรือ did (past simple) เข้ามาช่วยแทน
เมื่อประโยคส่วนหน้าเป็นบอกเล่า เราใช้คำถามข้างหลังเป็นปฏิเสธ แต่ถ้าประโยคส่วนหน้าเป็นปฏิเสธ คำถามข้างหลังจะเป็นบอกเล่า
He works in the bank, doesn’t he?
She couldn’t remember his phone number, could she?
หมายเหตุ:
ประโยคส่วนหน้ามีคำว่า Let’s  ส่วนของ tag จะเป็น shall we?
ตัวอย่างเช่น       Let’s put some music on, shall we?
                        ประโยคส่วนหน้ามีคำว่า Let me/him  ส่วนของ tag จะเป็น will you/won’t you?
ตัวอย่างเช่น       You’ll let me borrow this shirt, won’t you?
ประโยคส่วนหน้ามีคำว่า I have (เป็นเจ้าของ) ส่วนของ tag จะเป็น haven’t I?
ตัวอย่างเช่น       He has a blue car, hasn’t he?
ยกเว้น I have (ไม่ได้แสดงความเป็นเจ้าของ ใช้เป็นสำนวน) ส่วนของ tag จะเป็น don’t I?
ตัวอย่างเช่น       He had a nice time, didn’t he?
Last week he had a cold, didn’t he?
                        ประโยคส่วนหน้ามีคำว่า This/That is  ส่วนของ tag จะเป็น isn’t it?
ตัวอย่างเช่น       This is a good book, isn’t it?
This restaurant is very cheap, isn’t it?
                        ประโยคส่วนหน้ามีคำว่า I am ส่วนของ tag จะเป็น aren’t I?
ตัวอย่างเช่น       I am right, aren’t I?
I am late aren’t I?
ประโยคคำสั่งในรูปปฏิเสธ ส่วนของ tag จะเป็น will you?
                        ตัวอย่างเช่น       Don’t leave the door unlocked, will you?
Don’t tell anyone, will you?



0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

 

MyHomeWork 6/8 Template by Ipietoon Blogger Template | Gift Idea